แนวคิด
วรรณกรรมท้องถิ่นเป็นวรรณกรรมที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นนั้นๆ โดยใช้ภาษาของถิ่นนั้นในการถ่ายทอดวิถีชีวิตและวัฒนธรรมประเพณี ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่นภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้เนื้อหาส่วนใหญ่ของวรรณกรรมถิ่นมักเกี่ยวเนื่องด้วยสาสนา หรืออาจเป็นนิทาน นิยายที่เล่าสืบต่อกันมาการศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นเป็นการเรียนรู้ภาพวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
สาระสาระการเรียนรู้ ........
๑. ความหมายของวรรณกรรมท้องถิ่น
๒. ลักษณะของวรรณกรรมท้องถิ่น
๓. ประโยชน์ในการศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่น
๔. บทบาทของวรรณกรรมท้องถิ่น
๕. วรรณกรรมท้องถิ่น : ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง .......
๑. อธิบายความหมาย ลักษณะและประเภทของวรรณกรรมท้องถิ่นได้
๒. อธิบายประโยชน์ในการศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นได้
๓. อธิบายภูมิปัญญาที่ปรากฏในวรรณกรรมท้องถิ่นได้
๔. อธิบายบทบาทของวรรณกรรมท้องถิ่นได้
๕. อธิบายลักษณะวรรณกรรมท้องถิ่น
ความหมายของวรรณกรรมท้องถิ่น
วรรณกรรมท้องถิ่น(Regionel Literature) เป็นศาสตร์สาขาหนึ่งของคติชนวิทยา (Folklore) ประกอบด้วยเรื่องราวที่ผู้คนเล่นสู่กันฟัง ทั้งที่เป็นวรรณกรรมมุขปาฐะ และวรรณกรรมลายลักษณ์วรรณกรรมท้องถิ่นจึงเป็นการบันทึกวิถีชีวิตชาวบ้านในท้องถิ่นนั้นๆ
ลักษณะของวรรณกรรมท้องถิ่น
ลักษณะของวรรณกรรมท้องถิ่น มีด้งนี้
๑. ชาวบ้านเป็นผู้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในท้องถิ่นของตน ทั้งยังเป็นผู้ใช้ และผู้รักษาวรรณกรรมท้องถิ่น
๒. ชาวบ้านหรือพะภิกษุเป็นผู้สร้างวรรณกรรมท้องถิ่นขึ้นมาเพราะมีใจรัก ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อถวายพระมหากษัตริย์เหมือวรรณคดีทั้งไป
๓. ใช้ภาษาที่เรียบง่าย ภาษาที่ใช้เป็นภาษาถิ่นของแต่ละท้องถิ่น สำนวนโวหารก็ใช้สำนวนโวหารท้องถิ่นซึ่งมุ่งสื่อความหมายเป็นสำคัญ
๔. เนื้อหาส่วนใหญ่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความบันเทิงใจ แต่เน้นเรื่องคติธรรมทางพุทธศาสนา เพราะส่วนใหญ่เป็นนิทานคติธรรม
๕. ไม่ได้มุ่งยอพระเกียรติพระมหากษัตริย์มากนัก แม้ตัวละครเอกจะเป็นพระมหากษัตริย์
๖. เสนอภาพสังคม วิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น
๗. เสนอค่านิยมและอุดมคติทั่วไปเหนือวรรณคดี แม้จะยกย่องพระมหากษัตริย์แต่ก็ไม่เน้นมากนัก
ประโยชน์ในการศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่น
ประโยชน์ในการศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่น มีด้งนี้
๑. ทำให้ผู้ศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นเข้าใจความเชื่อ คตินิยม จารีตประเพณี ฯลฯ
๒. ทำให้ทราบคำที่ใช้ท้องถิ่นต่างๆ
๓. การศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นในสถาบันการศึกษา
๔. ทำให้ผู้ศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นทราบถึงความสามารถของกวีพื้นบ้าน
๕. ทำให้ผู้ศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นเกิดความภูมิใจท้องถิ่นของตน
๖. การศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นเป็นอนุรักษ์วรรณกรรมพื้นบ้านของไทยไว้ไม่ให้สูญหายไปก่อนเวลาอันควร
บทบาทของวรรณกรรมท้องถิ่น
บทบาทของวรรณกรรมท้องถิ่นมีหลายประการ เช่น
๑. ให้ความบันเทิง วรรณกรรมท้องถิ่นบทบาทสำคัญในการให้ความบันเทิงแก่บุคคลในสังคม ดังจะเห็นได้จากการเล่นนิทานพื้นบ้านของภาคต่างๆ
๒. สืบทอดวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น การถ่ายทอดวรรณกรรมท้องถิ่นประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงกล่อมเด็ก เพลงอีแซว หรือนิทาน
๓. เป็นสื่อกลางระหว่างวัดกับประชาชน ในท้องถิ่นของไทยมีวัดเป็นศูนย์กลางในการสร้างสรรค์ เผยแพร่และอนุรักษ์วรรณกรรมท้องถิ่น
๔. ควบคุมพฤติกรรมของคนในสังคม เนื่องจากวรรณกรรมท้องถิ่นส่วนใหญ่มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา ดังนั้นแนวคิดและคิดนิยมต่าง ๆ
วรรณกรรมท้องถิ่น : ภูมิปัญญาท้องถิ่น
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน อธิบายความหมายของภูมิปัญญาว่า “พื้นความรู้ความสามารถ”ภูมิปัญญาจึงหมายถึง ความรู้หรือระบบความรู้ที่แสดงถึงสติปัญญาและความสามารถของมนุษย์ โดยทั่งไปจะแบ่งประเภทของวรรณกรรมท้องถิ่นเป็น ๔ ประเภท ได้แก่ วรรณกรรมท้องถิ่นภาคเหนือ วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสาน วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ และวรรณกรรมท้องถิ่นภาคกลาง ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ล้วนจำเป็น ๒ ประเภท ได้แก่
๑. วรรณกรรมท้องถิ่นที่เป็นมุขปาฐะ
๒. วรรณกรรมท้องถิ่นภาคที่เป็นลายลักษณ์อักษร
วรรณกรรมท้องถิ่นภาคเหนือ
ภาคเหนือเป็นภาคมีวัฒนธรรมเก่าแก่ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาช้านาน มีภาษาไทยถิ่นเรียกกว่า “คำเมือง”มีตัวอักษรใช้เป็นของตนเอง โดยมีรูปแบบฉันทลักษณ์เฉพาะตน ที่นิยมมี ๓ ประเภท ได้แก่
๑. โคลง
๒. ค่าวธรรม
๓. ค่าวซอ
วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสาน
ภาคอีสานมีวัฒนธรรมที่รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมลุ่นแน่น้ำโขง คือ วัฒนธรรมไทยลาวมี๓ษาไทยถิ่นที่เรียกกว่า “ภาษาอีสาน” และมีอักษรใช้ ๒ ชนิด ได้แก่ “อักษรไทยน้อย”ใช้บันทึกเรื่องราวทั่งไป
วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้
ประชาชนที่อยู่ตั่งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจนสุดเขตประเทศไทย จัดเป็นประชาชนในท้องถิ่นภาคใต้ เป็นกลุ่มที่ใช้ภาษาถิ่นใต้ที่เรียกกว่า “แลงใต้” มีวัฒนธรรมบางอย่างที่แตกต่างไปจากภาคกลาง การเขียนหนังสื่อใช้อักษรไทยเขียนเอกสารไทยและวรรณกรรมพื้นบ้าน และใช้อักษรขอมเขียนพระคัมภีร์ละตำราวิชาการ ลักษณะคำประพันธ์ที่นิยมใช้มากที่สุด
วรรณกรรมท้องถิ่นภาคกลาง
วรรณกรรมพื้นบ้านและวรรณคดีไทยเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันค่อนข้างยาก เพราะมีการถ่ายโอนซึ่งกันและกันอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม วรรณกรรมพื้นบ้านมีฉันทลักษณ์ที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อนชาวบ้านเป็นผู้ใช้ และมีสำนวนโวหารและคำศัพท์ที่เรียบง่าย
สรุปสาระสำคัญ
วรรณกรรมท้องถิ่นเป็นศาสตร์สาขาหนึ่งของดติชนวิทยา มีทั้งวรรณกรรมมุขปาฐะและวรรณกรรมลายลักษณ์ โดยมีความสำคัญอยู่ในสังคมและวัฒนธรรมในท้องถิ่นนั้น ใช้๓ษาที่เรียบง่ายและภาษาถิ่นในการทอดข้อมูล มีการนำเสนอสภาพสังคม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ตลาดจนค่านิยมในแต่ละท้องถิ่น วรรณกรรมท้องถิ่นของไทยแบ่งออกเป็น ๔ ประเภท ได้แก่วรรณกรรมท้องถิ่นภาคเหนือ วรรณกรรมท้องถิ่นของแต่ละภาคต่างมีลักษณะเฉพาะที่สะท้องภาพวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นได้
แบบประเมินผลการเรียนรู้
ตอนที่ ๑ จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุด
๑.ข้อใดไม่ใช่วรรณกรรมท้องถิ่น
ก. นิทานพื้นบ้าน ข. เพลงกล่อมเด็ก
ค. ปริศนาคำทาย ง. พระราชพิธีต่างๆ
๒. ข้อใดเป็นลักษณะของวรรณกรรมท้องถิ่น
ก. สร้างขึ้นเพื่อถวายกษัตริย์
ข. แต่งขึ้นเพื่อยอพระเกียรติกษัตริย์เป็นสำคัญ
ค. ชาวบ้านเป็นผู้รู้รักษา ผู้ใช้วรรณกรรมท้องถิ่น
ง.ใช้๓ษากลางเป็นหลักไม่นิยมใช้ภาษาถิ่น
๓.การศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นให้ประโยชน์ด้านใดน้อยที่สุด
ก. ความเชื่อ ข. กฎหมาย
ค.จารีประเพณี ง. ภาษาศาสตร์
๔. ข้อใดเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องภูตผี
ก. งานปอยเข้าสังข์ ข. งานบวชลูกแก้ว
ค.งานเทศน์มหาชาติ ง. งานบุญข้าวประดับดิน
๕.ข้อใดเป็นวรรณกรรมท้องถิ่นทีมุ่งให้ความบันเทิง
ก. ค่าวธรรม ข. ค่าวซอ
ค. ลำมหาชาติ ง.ฮีตสิบสองคองสิบสี่
๖.ตัวอักษรใดเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือ
ก. อักษรขอม ข. อักษรตัวธรรม
ค. อักษรไทยน้อย ง. อักษรตัวเมือง
๗.วรรณกรรมข้อใดที่กล่าวถึงประเพณีท้องถิ่นภาคอีสานทั้งสิบสิงเดือน
ก. พระราชพิธีสองเดือน ข. ฮีตสิบสองคองสิบสี่
ค. พระยาคำกลองสอนไพร่ ง. สวดโอ้เอ้วิหารราย
๘.ข้อใดเป็นนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน
ก.นิทานปักษา ข. สุวรรณหงส์
ค. ชิวหาลิ้นดำ ง. กาละเกด
๙. การละเล่นพื้นบ้านเกี่ยวข้องกับวรรณกรรมอย่างไร
ก. เป็นบทร้องในการเล่น
ข. บอกวิธีการเล่นแต่ละประเภท
ค. สะท้อนความเชื่อในการละเล่นนั้นๆ
ง.ทำให้ผู้เล่นเกิดความสนุกสนานยิ่งขึ้น
๑๐
“ไก่เถื่อนเอย ขันเทือนดังทั้งบ้าน
โลกสาวขี้คร้าน นอนนานให้แม่ปลุก
แม่ฉวยได้ด้ามขวาน แยงวานเข้าดังพลุก
นอนนานให้แม่ปลุก โลกสาวขี้คร้านเอย”
บทร้องข้างต้นเป็นวรรณกรรมท้องถิ่นประเภทใด
ก. นิทาน ข. การละเล่น
ค. เพลงกล่อมเด็ก ง. จารีตประเพณี
ตอนที่ ๒ จงตอบคำถามต่อไปนี้
๑. วรรณกรรมท้องถิ่นหมายถึงอะไร
ตอบ วรรณกรรมท้องถิ่น(Regionel Literature) เป็นศาสตร์สาขาหนึ่งของคติชนวิทยา (Folklore) ประกอบด้วยเรื่องราวที่ผู้คนเล่นสู่กันฟัง ทั้งที่เป็นวรรณกรรมมุขปาฐะ และวรรณกรรมลายลักษณ์วรรณกรรมท้องถิ่นจึงเป็นการบันทึกวิถีชีวิตชาวบ้านในท้องถิ่นนั้นๆ
๒. วรรณกรรมท้องถิ่นมีลักษณะอย่างไร
ตอบ
1. ชาวบ้านเป็นผู้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในท้องถิ่นของตน ทั้งยังเป็นผู้ใช้ และผู้รักษาวรรณกรรมท้องถิ่น
2. ชาวบ้านหรือพะภิกษุเป็นผู้สร้างวรรณกรรมท้องถิ่นขึ้นมาเพราะมีใจรัก ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อถวายพระมหากษัตริย์เหมือวรรณคดีทั้งไป
3. ใช้ภาษาที่เรียบง่าย ภาษาที่ใช้เป็นภาษาถิ่นของแต่ละท้องถิ่น สำนวนโวหารก็ใช้สำนวนโวหารท้องถิ่นซึ่งมุ่งสื่อความหมายเป็นสำคัญ
4. เนื้อหาส่วนใหญ่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความบันเทิงใจ แต่เน้นเรื่องคติธรรมทางพุทธศาสนา เพราะส่วนใหญ่เป็นนิทานคติธรรม
5. ไม่ได้มุ่งยอพระเกียรติพระมหากษัตริย์มากนัก แม้ตัวละครเอกจะเป็นพระมหากษัตริย์
6. เสนอภาพสังคม วิถีชีวิตและวัฒธรรมม้องถิ่นนั้น
7. เสนอค่านิยมและอุดมคติทั่วไปเหนือวรรณคดี แม้จะยกย่องพระมหากษัตริย์แต่ก็ไม่เน้น
มากนัก
๓. การศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นเกี่ยวกับข้องกับภาษาศาสตร์อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ คือ วรรณกรรมท้องถิ่นที่มีผู้บันทึกไว้เป็นตัวหนังสือ ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงได้ ในปัจจุบันจะพบว่ามีการศึกษารวบรวมวรรณกรรมท้องถิ่นในสถาบันการศึกษาเป็นจำนวนมาก มีการให้ความสำคัญกับวรรณกรรมท้องถิ่นมากขึ้น
๔. จงบอกประโยชน์ของการศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่น
ตอบ
1. ทำให้ผู้ศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นเข้าใจความเชื่อ คตินิยม จารีตประเพณี ฯลฯ
2. ทำให้ทราบคำที่ใช้ท้องถิ่นต่างๆ
3. การศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นในสถาบันการศึกษา
4. ทำให้ผู้ศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นทราบถึงความสามารถของกวีพื้นบ้าน
5. ทำให้ผู้ศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นเกิดความภูมิใจท้องถิ่นของตน
6. การศึกษาวรรณกรรมท้องถิ่นเป็นอนุรักษ์วรรณกรรมพื้นบ้านของไทยไว้ไม่ให้สูญหายไปก่อนเวลาอันควร
๕. วรรณกรรมท้องถิ่นช่วยสืบทอดประเพณีท้องถิ่นได้อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ
1. ให้ความบันเทิง วรรณกรรมท้องถิ่นบทบาทสำคัญในการให้ความบันเทิงแก่บุคคลในสังคม ดังจะเห็นได้จากการเล่นนิทานพื้นบ้านของภาคต่างๆ
2. สืบทอดวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น การถ่ายทอดวรรณการท้องถิ่นประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงกล่อมเด็ก เพลงอีแซว หรือนิทาน
3. เป็นสื่อกลางระหว่างวัดกับประชาชน ในท้องถิ่นของไทยมีวัดเป็นศูนย์กลางในการสร้างสรรค์ เผยแพร่และอนุรักษ์วรรณกรรมท้องถิ่น
4. ควบคุมพฤติกรรมของคนในสังคม เนื่องจากวรรณกรรมท้องถิ่นส่วนใหญ่มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา ดังนั้นแนวคิดและคิดนิยมต่าง ๆ
๖. ภูมิปัญญาท้องถิ่นหมายถึงอะไร
ตอบ หมายถึง ความรู้หรือระบบความรู้ที่แสดงถึงสติปัญญาและความสามารถของมนุษย์
๗. วรรณกรรมมุขปาฐะหมายถึงอะไร
ตอบ ซึ่งไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ใช้ถ้อยคำเป็นสิ่งสำคัญในการถ่ายทอด เช่น นิทาน เพลงพื้นบ้าน
๘. ให้นักศึกษายกตัวอย่างบทร้องในการเล่นที่นักศึกษารู้จักมา ๒ ตัวอย่าง
ตอบ
- รีรีข้าวสาร
- เจ้างูเอย
๙. การแต่งนิทานแบบชาดกมีลักษณะอย่างไร
ตอบ เพื่อให้ได้ความรู้การดำเนินชีวิตและคติสอนใจ
๑๐. ให้นักศึกษายกตัวอย่างประเพณีการละเล่นของภาคกลางมา ๓ ประเพณี
ตอบ
- หัวร้านชนกัน
- ขี่ม้ากล้านกล้วย
- หมากเก็บ
ตอนที่ ๓ ให้นักศึกษาทำเครื่องหมาย ถูก หน้าข้อที่ถูก และทำเครื่องหมาย ผิด หน้าข้อที่ผิด
ถูก ๑. “คำเมือง” คือภาษาประจำภาคเหนือ
ถูก ๒. วรรณกรรมท้องถิ่นมักมีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนา
ถูก ๓. คติชนวิทยาเป็นการศึกษาเกี่ยวกับวรรณกรรมท้องถิ่น
ผิด ๔. ประเพณีผีตาโขนเป็นประเพณีของภาคเหนือที่แสดงความเชื่อ เรื่อง๓ตผี
ถูก ๕. พระยากง พระยาพาน เป็นนิทานพื้นบ้านของภาคกลาง
ผิด ๖. “หนังควน” คือการแสดงหนังใหญ่ในปัจจุบัน
ผิด ๗. ประเพณีปอยหลวงแสดงความเชื่อเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ
ผิด ๘. วรรณกรรมมุขปาฐะคือวรรณกรรมที่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
ถูก ๙. “ขูลูนางอั้ว” เป็นนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน
ผิด ๑๐. อักษรตัวธรรม เป็นอักษรที่ใช้กันแพร่หลายในภาคกลาง
ผู้จัดทำ
1 นาย ธนพล พรมเทศ คธ 201
2 นาย ธนพันธ์ พรมเทศ คธ 201
3 นาย ทวีศักดิ์ แสนสุข คธ 201
4 นาย สมเกรียติ์ เดชเสถียร คธ 201
2 นาย ธนพันธ์ พรมเทศ คธ 201
3 นาย ทวีศักดิ์ แสนสุข คธ 201
4 นาย สมเกรียติ์ เดชเสถียร คธ 201